ปัญหาเรื่องสิวเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ฝุ่นควัน หรือฮอร์โมน ต่างก็ทำให้เราเกิดสิวได้ และทุกครั้งที่เป็นสิวถึงสิวจะหายไปแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งร่องรอยแผลเป็นเอาไว้ ให้รู้สึกหนักใจกว่าเดิม วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวกันค่ะ
1.การใช้ยารักษารอยแผลเป็น
เป็นวิธีที่คาดว่าหลายๆคนใช้กันอยู่เป็นประจำแน่นอนค่ะ อย่างน้อยก็เป็นการรักษารอยแผลเป็นจากสิวขั้นแรกที่หลายคนทำ เพราะยารักษารอยแผลเป็นจากสิวสามารถหาซื้อได้ง่าย รักษาได้ด้วยตนเอง และในปัจจุบันยารักษารอยแผลเป็นจากสิวก็มีหลายสูตร นอกจากรักษารอยแผลเป็นจากสิวแล้วยังช่วยป้องกันการกลับมาของสิว และบางยี่ห้อยังช่วยบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ
2.ทาหว่านหางจระเข้
วิธีนี้เป็นวิธีที่ส่งต่อมาจากรุ่นคุณปู่คุณย่า และได้ผลดีมากค่ะ ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยสมานแผล ลดการอักเสบของผิว ให้ความชุ่มชื่น ลดรอยดำ รอยแดงของผิวหนังได้ สามารถนำเนื้อหว่านหางจระเข้มาหั่นเป็นแผ่นบางๆ ทาหรือมาสก์หน้าได้เลยค่ะ หรือจะใช้หว่านหาจระเข้ควบคู่กับการรักษารอยแผลเป็นจากสิวแบบอื่น ก็จะช่วยให้เห็นผลดียิ่งขึ้นค่ะ
3.มาสก์หน้าด้วยสมุนไพร
สมุนไพรของไทยหลายชนิด มีสรรพคุณช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้ดีมากค่ะ ทั้งลดรอยแผลเป็น ลดการอักเสบ ลดริ้วรอย และอีกสารพัดประโยชน์ เช่น มะขามเปียก น้ำผึ้ง มะนาว มะเขือเทศ สามารถนำมามาสก์หน้า สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้ค่ะ
4.ทาครีมลดรอยสิว
สามารถหาซื้อได้ไม่ยากค่ะ คล้ายกับยารักษารอยแผลเป็นจากสิว ส่วนใหญ่มักเป็นเนื้อเจลค่ะ มีส่วนผสมหลัก คือวิตามินอี ช่วยลบรอยแผลเป็นเพิ่มความยืนหยุ่นให้กับผิวหนังค่ะ วิตามินซีช่วยให้ผิวกระจ่างใสจุดด่างดำจางลง แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ และอาร์บูติน กรดโคจิก และในบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมอื่นๆเพิ่มเติม ครีมลดรอยสิวจะช่วยลบรอยแผลเป็นจากสิวได้ แต่จะใช้เวลายาวนานกว่าการรักษารอยแผลเป็นแบบอื่นๆค่ะ ดังนั้นหากไม่หายจริงๆแนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังเพิ่มเติมนะคะ
5.การทำไอออนโต
เป็นการรักษาโดยใช้กระแสไฟฟ้า ในการผลักยารักษารอยแผลเป็นเข้าสู่ผิวชั้นใน วิธีนี้จะช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวตึง กระชับ แผลเป็นจากรอยสิวดูดีขึ้น มักใช้รักษารอยแผลเป็นจากรอยสิวที่เป็นหลุมและรุนแรงค่ะ
6.ทานอาหารที่ช่วยลดเลือนแผลเป็นจากสิว
อาหารที่ช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิวได้ดีคือ อาหารที่มีวิตามินซีสูงค่ะ เช่น มะเขือเทศ มะนาว เพราะวิตามินซีช่วยให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่า และสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลง นอกจากนี้เป็นการรักษาจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ร่างกายแข็งแรงและเป็นสิวน้อยลงด้วยค่ะ
7.ผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละครั้ง
การผลัดเซลล์ผิวสามารถทำได้ด้วยการสครับผิวค่ะ วิธีการนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและขี้ไคลหลุดออกไปค่ะ ลดการอุดตันของผิวหนัง การผลัดเซลล์ผิวจะทำให้รอยแผลเป็นจางลงค่ะ สูตรการทำสครับขัดผิวหน้าด้วยตนเองมีหลายสูตรเลยค่ะ เป็นสิ่งที่หาได้ในครัวบ้านเรา แต่ต้องอย่าลืมความสะอาดด้วยนะคะ เช่น น้ำตาลทรายแดง โยเกิร์ต น้ำมะขามเปียก ผสมกันแล้วขัดให้ทั่วหน้าเบาๆ เท่านี้ก็ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ดีมากค่ะ
8.การทำเลเซอร์
เป็นวิธีการรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่รวดเร็วทันใจค่ะ เป็นการใช้คลื่นไฟฟ้าเข้มข้นเขาไปทำลายเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สามารถรักษาได้ทั้งรอยแผลเป็นแบบรอยดำ รอยแผลเป็นที่เป็นหลุมลึกเลยค่ะ แต่ถึงจะเห็นผลรวดเร็วทันใจ แต่อาจจะต้องมีการทำซ้ำหลายครั้งและต่อเนื่อง วิธีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
9.การฉีดฟิลเลอร์
เป็นการรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่เป็นหลุมลึก โดยจะเป็นการเติมฟิลเลอร์เข้าไปในในหลุมสิว ทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้นค่ะ วิธีนี้มีข้อดีคือเจ็บน้อย แต่ข้อเสียคือเมื่อฟิลเลอร์สลายไป หลุมสิวจะเก็บมากอีกครั้งเป็นการรักษาแบบไม่ถาวรเท่าไหร่ค่ะ
10.ป้องกันไม่ให้เกิดสิว
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันรอยสิวเลยค่ะ เพราะถ้าเราไม่เป็นสิวเลยจะไม่มีรอยแผลเป็นแน่นอน หรือถ้าเราเป็นสิวแล้ว ต้องสังเกตว่าเราเป็นสิวแบบไหน เพื่อรักษาสิวให้ถูกวิธี เมื่อสิวหายไปก็จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ค่ะ ดังนั้นความสะอาดของสิ่งของเครื่องใช้จึงสำคัญ เช่นปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า และการใช้มือสัมผัสหน้าก็ทำให้เกิดสิวได้ ต้องระวังกันนะคะ
ครบแล้วนะคะ สำหรับ 10 วิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิว สามารถเลือกใช้วิธีต่างๆได้ตามที่เราสะดวกเลย หรือจะใช้หลายวิธีการรักษารอยแผลเป็นจากสิวประกอบกันก็ได้นะคะ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะของรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้น หรือหากลองทำตามวิธีรักษารอยแผลเป็นจากสิวที่เราแนะนำแล้วไม่ได้ผลจริงๆ แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังเพื่อปรึกษาอีกครั้งค่ะ
แหล่งที่มา : www.medthai.com
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ สกินแคร์